ภาพจากwww.andamandiscoveries.com/

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552

พัฒนาการผลิตและการตลาดเกษตรอินทรีย์

กระทรวงเกษตรฯ จับมือพาณิชย์ พัฒนาการผลิตและตลาดเกษตรอินทรีย์ เตรียมของบแผนปฏิบัติการไทยเข็มแข็ง นำร่อง 2 โครงการสินค้าเกษตรดาวรุ่ง ข้าวหอมมะลิ ผัก และพืชสมุนไพรอินทรีย์ ชี้เป้ากำหนดพื้นที่ปลูกและขยายการช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเป็นระบบ

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการการพัฒนาการผลิต การตลาดเกษตรอินทรีย์ ว่า ที่ประชุมมีมติจะเสนอขอใช้งบประมาณจากโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข็มแข็ง เพื่อดำเนินโครงการนำร่องการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ จำนวน 2 โครงการสำคัญ คือ โครงการบูรณาการการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ในทุ่งกุลาร้องไห้เพื่อการส่งออก พื้นที่เป้าหมาย 5 จังหวัด คือ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ และ ศรีสะเกษ และยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับให้กับสินค้าเกษตรอินทรีย์ 3 พืชหลัก ได้แก่ ข้าว ผัก และพืชสมุนไพรอินทรีย์ พื้นที่เป้าหมาย อาทิ เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ และลำพูน เป็นต้น ทั้งนี้ เนื่องจากทั้ง 2 โครงการดังกล่าวยังขาดงบประมาณในการดำเนินการ ซึ่งจะได้นำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ซึ่งมีนายสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับการบูรณาการแผนปฏิบัติการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2553-2554 ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะทำงาน 1 ชุด เพื่อขับเคลื่อนการบูรณาการแผนปฏิบัติการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้เกิดผลในเชิงรูปธรรม และกำหนดพื้นที่เป้าหมายดำเนินการที่ชัดเจน พร้อมทั้งได้มอบหมายให้คณะทำงานชุดดังกล่าวนี้ไปพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ฉบับที่ 1 พ.ศ.2551-2554 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 เนื่องจากในปีที่ผ่านมาได้รับงบประมาณไม่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยให้คณะทำงานชุดนี้ไปพิจารณาดูว่ามีแผนงานใดบ้างของปีงบประมาณ 2551 ที่ยังไม่ได้ดำเนินการให้บรรจุรวมไว้ในการจัดทำคำของบประมาณที่จะดำเนินการในปี 2554 หลังจากนั้นจะให้มีการทบทวนแผนยุทธศาสตร์ฯใหม่ เพื่อให้แผนงานสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับในแต่ละปีต่อไป
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รองประธานอนุกรรมการฯ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้นำเสนอโครงการขยายตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ในปี 2554 จำนวน 8 โครงการ วงเงิน 55 ล้านบาท ทั้งนี้ เชื่อว่าภายใต้การบูรณาการการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติของคณะทำงานตามมติที่ประชุมในครั้งนี้น่าจะทำให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ได้ โดยจะมีการจัดทำ Organics Mapping เพื่อการตลาดทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ เพื่อรวบรวมฐานข้อมูลของทั้งพื้นที่และรายชนิดสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดที่ชัดเจน สามารถการประเมินผลความคืบหน้าของแผนงานได้สำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:


คลังบทความของบล็อก